ผู้เขียน หัวข้อ: วิธีการการเลือกเฟ้นซื้อกระเป๋าเดินทางแบบถือขึ้นเครื่อง  (อ่าน 9 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Luckyz0nl3

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 37206
  • พลังน้ำใจ 0

แนวทางการเลือกคัดซื้อกระเป๋าเดินทางแบบถือขึ้นเครื่อง

ในยุคที่ทางการบินแข่งขันด้านมูลค่ามากมายขึ้นเรื่อยๆ กฎระเบียบการพกพากระเป๋าเดินทางก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว โดยเฉพาะพันธุ์การบินโลวคอสต์ที่ทุกหมวดเป็นเงินเป็นทอง ผู้โดยสารอาจถูกชาร์จเพิ่มถ้าต้องโหลดกระเป๋าใต้ท้องเครื่อง บางครั้งการจัดสัมภาระให้ลงตัวในกระเป๋าที่ถือขึ้นเครื่อง (carry-on) จึงอาจเหมาะสมกว่า ทั้งในแง่ความคล่องตัวและค่าใช้จ่าย  ทีมงานทำงานด้านไอที จึงจำเป็นต้องพกโน้ตบุ๊กติดตัวอยู่เสมอ เมื่อรวมกับแบตเตอรี่ ถนนชาร์จ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ก็หนักร่วม 2-3 กิโลกรัมได้ จากที่เคยแบกเป้ ก็ต้องเริ่มเปลี่ยนมาใช้กระเป๋าล้อลากแบบหิ้วขึ้นเครื่องกันแคงทน นอกจากข้อความสุขภาพสิ่งหลังแล้ว ยังเอาสิ่งของจุกจิกแบบเสื้อกันหนาว เสื้อสำรองยามกระเป๋าหาย พร้อมกับอุปกรณ์ส่วนตัวเล็กน้อยขึ้นเครื่องได้มากมายก่ายกองขึ้น หลังจากทะลุทะลวงมาหลายทริป มีโอกาสเปลี่ยนกระเป๋ามาหลายใบ พวกเราเลยโหยแชร์ประสบการณ์การเลือกคัดซื้อกระเป๋าเดินทางล้อลากเพราะด้วยขึ้นเครื่องมาฝากกันค่ะ ปัจจัยที่ควรสังเกตมีด้วยกันหลายข้อ ดังนี้


  • ‘ปริมาตร’ เป็นข้อความสำคัญสำคัญอันดับหนึ่ง

    ความจุเครื่องใช้กระเป๋าเดินทางที่ปลดให้ถือขึ้นเครื่อง ขึ้นกับกฎของล่าการบินแต่ละแห่ง แค่นั้นละพันธุ์การบินกำหนดความจุกระเป๋าไม่เท่ากัน กับมีความเข้มเหือดแห้งข้าวของเครื่องใช้การตรวจขนาดกระเป๋าแตกต่างกัน (โลว์คอสต์มักจะเข้มงวดหน่อย) ตรงนี้สำคัญไม่เบา เพราะถ้าหากกระเป๋า carry-on สรรพสิ่งเราใหญ่เกินความจุที่ล่าช้าการบินกำหนด เราอาจต้องโหลดกระเป๋าใบนั้นแอยู่ยืด มิฉะนั้นจะไม่ได้ขึ้นเครื่อง ตายทั้งเงินพร้อมด้วยเวลา ดังนั้นควรเตรียมตัวเรื่องราวนี้ให้พร้อม  ทางที่ดีหากจะซื้อกระเป๋าใบใหม่ เราขอนำทางให้พกล่าช้าวัดไปด้วย ด้วยกันอย่าลืมวัดให้ถึงตรงส่วนล้อด้วยนะคะ เพราะในใบสเปกกระเป๋าเดินทางอาจวัดเฉพาะตัวกระเป๋า เฉพาะเวลาเดินทางจริง ถนนการบินอาจให้ทดสอบใส่กระเป๋าเข้ากรอบเหล็กสี่เหลี่ยม ซึ่งถ้ารวมล้อแล้วความจุอาจเกินได้ วัดด้วยตัวเองชัวร์กว่า


  • ‘น้ำหนัก’ ยิ่งเบายิ่งดี จุสิ่งได้เยอะขึ้น

    เดี๋ยวนี้หลายแถวการบินไม่ได้จำกัดแค่ “ความจุ” กระเป๋าเพียงชิ้นเดียว เพียงนั้นยังจำกัด “น้ำหนัก” เครื่องใช้กระเป๋าที่หิ้วขึ้นเครื่องด้วย (มีเครื่องชั่งพร้อมสรรพ) ไม่ทันเวลาการบินส่วนใหญ่ปล่อยวางให้ถือสัมภาระขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 7 กิโลกรัม ซึ่งลำพังแค่น้ำหนักสิ่งของตัวกระเป๋าก็อาจกินไปเยอะแล้ว  ในยุคสมัยนี้ กระเป๋ารุ่นใหม่ๆ ใช้สิ่งของสังเคราะห์แบบใหม่ การออกแบบแนวใหม่ที่ช่วยให้น้ำหนักข้าวของตัวกระเป๋าเบาขึ้นบานเบอะ กระเป๋าพวกนี้มักลงท้ายชื่อรุ่นว่า Lite ตรงนี้เรารอบรู้ตรวจสอบสเปกได้เปลี่ยนเว็บไซต์ข้าวของเท่านั้นละแบรนด์ เพราะมีข้อมูลน้ำหนักให้พร้อมเลย


  • ‘ล้อลาก’ เลือกสรรแบบไหนดี 2 หรือ 4 ล้อ

    กระเป๋ายุคนี้มักมี “ล้อ” เพื่อให้เราเชี่ยวชาญลากกระเป๋าไปบนสนามบินอันกว้างใหญ่ได้ โดยไม่ต้องแบกสรรพสิ่งกันหลังแอ่นปฎิบัติงานนวัยอันควร ถ้าแยกประเภทกระเป๋าตามจำนวนล้อ เชี่ยวชาญแยกได้ปราบปรามวๆ ดังนี้

    กระเป๋าหิ้ว แบบไม่มีล้อ เหมาะกับคนเครื่องใช้น้อย น้ำหนักเบา แต่ปัจจุบันอาจหาคนใช้กระเป๋าแบบนี้ได้น้อยลง
    กระเป๋าล้อลากแบบ 2 ล้อ เหมาะแก่การลากแบบเฉียง เท่านั้นอาจลากลำบากหน่อย เมื่อต้องเดินในที่คับแคบ ต้องหมุนกระเป๋าตามช่องทางที่มี ตัวอย่างเช่น การนำกระเป๋าขึ้นเครื่องที่ผู้โดยสารมักแออัดตามทางเดิน ข้อดีของกระเป๋าประเภคงทนี้คือวางบนพื้นแล้วไม่ไหลไปเอง โดยเฉพาะพื้นเอียง
    กระเป๋าล้อลากแบบ 4 ล้อ กำลังได้รับความนิยมเยอะแยะขึ้นเรื่อยๆ เพราะลากกระเป๋าง่ายกว่าแบบ 2 ล้อมาก ลื่นกว่า หมุนได้รอบทิศทาง เข็นจากด้านหลังได้ด้วย สะดวกต่อการเข็นในที่แคบชิ้นส่วนทางเดินบนเครื่องบิน เฉพาะข้อหมดลมหายใจคือมีโอกาสไถลได้สูง ในบางสถานการณ์ ประดุจดัง ตอนขึ้นรถบัสจากเกตเพื่อขึ้นเครื่อง คนแน่นดินแดนน้อย อาจต้องใช้ขาหนีบเอาค่ะ – -’
    นอกจากนี้ กระเป๋าแบบ 4 ล้อ ยังมีล้อคู่แบบที่เรียกว่า “Double-wheels” หรือเท่านั้นละมุม มีล้อ 2 ล้อ (ให้นึกภาพรถบรรทุก) ช่วยให้การลากกระเป๋าสะดวกสบายอย่างยิ่งขึ้นไปอีก เนื่องด้วยกระเป๋าขนาดเล็กที่นำขึ้นเครื่องอาจจะยังไม่จำเป็นเท่าใด แต่กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ควรมีเป็นประเภทยิ่งค่ะ


  • ‘ช่องกักตุนของใช้ภายใน’ ใครว่าไม่สำคัญ

    หัวเรื่องช่องกักตุนข้าวของภายในกระเป๋า เป็นอีกหลักสำคัญที่คนมักมองข้าม ขนาดนั้นจริงๆ ก็มีความสำคัญเพราะช่วยให้การจัดสรรพสิ่งเป็นระเบียบและการหยิบสิ่งสะดวกขึ้นไม่เบา กระเป๋าเดินทางทั่วไปัญหาักมีสายรัดด้วยว่าช่องปริมาตรใหญ่ เพื่อป้องกันสัมภาระกระเด็นไปมาในกรณีข้าวของเครื่องใช้ไม่เต็มกระเป๋า ส่วนที่ฝามักมีช่องซิปเร็วไว้ใส่เครื่องใช้จุกจิก หยิบง่ายฉวยสะดวก สุดท้ายคือช่องเอามารวมกันเครื่องใช้ที่ด้านหน้ากระเป๋า ที่ช่วยให้เราหยิบข้าวของเครื่องใช้บางภาค เช่น นิตยสาร เอกสาร ได้ง่ายโดยไม่จำเป็นต้องเปิดซิปใหญ่สิ่งกระเป๋าเลย  ตัวชิ้นด้านล่างคือกระเป๋าแบรนด์ TUMI ซึ่งโดดเด่นกว่าแบรนด์อื่น ตรงที่มีช่องเก็บข้าวของเครื่องใช้จำนวนสะพรั่ง เป็นสัดเป็นส่วนดี  ด้านในกระเป๋า TUMI รุ่น Int’l Expandable Carry-On  นอกจากนี้ กระเป๋าบางรุ่นยังมีซิปเพื่อ “ขยายความจุกระเป๋า” เพื่อให้เราเก่งเพิ่มเนื้อที่บรรจุภายในได้อีกสักหน่อย ถ้ากระเป๋าไม่เต็มก็แล้วกันไป ขนาดนั้นถ้ามีสิ่งเพิ่มเข้ามาแบบไม่คาดฝัน (เช่น มีของฝาก) ก็ยังอาจจะเอาตัวรอดได้ในวันกลับ ตรงนี้ถือเป็นลูกเล่นเล็กๆ อีกประการหนึ่งที่อาจต้องพิศด้วย


  • ‘อุปกรณ์กระเป๋า’ เลือกเฟ้นให้เหมาะกับสภาพการใช้งาน

    โดยทั่วไปแล้ว วัสดุสิ่งของกระเป๋าแยกได้ 2 แบบกว้างๆ คือ แบบซอฟต์เคส (Soft Case) ส่วนใหญ่มักใช้ผ้าไนล่อน กับแบบฮาร์ดเคส (Hard Case)
     
     

    Tags : กระเป๋าเดินทาง



ออนไลน์ xainers

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 166928
  • พลังน้ำใจ 0